You are currently viewing กรมโรงงานฯ ร่วมทีมเต็มเหนี่ยว ลงดาบโรงงานยางเถื่อนปทุมธานี สั่งหยุดกิจการทั้งหมดทันที! หลังพบจงใจฝ่าฝืนกฎหมาย

วันที่ 2 ธันวาคม 2568 อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม มอบหมายให้ นายประสม ดำรงพงษ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบมาตรฐานงานกำกับโรงงาน นำเจ้าหน้าที่กองบริการงานอนุญาตโรงงาน 2 และกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม ร่วมชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจของกระทรวงอุตสาหกรรม หรือ “ทีมเต็มเหนี่ยว” นำโดย นางสาวพลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมด้วย นายบวรวิทย์ อัครจันทางโชติ ผู้อำนวยการกองตรวจราชการ สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายสราวุธ พรทิพย์ อุตสาหกรรมจังหวัดปทุมธานี และผู้แทนองค์การบริหารส่วนตำบลคูบางหลวง ลงพื้นที่ตรวจสอบการประกอบกิจการของ บริษัท หย่งเฉียง รับเบอร์ จำกัด ประเภทโรงงานลำดับที่ 52(4) ประกอบกิจการผลิตยางขอบกระจก ในตำบลคูบางหลวง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี เพื่อติดตามการปฏิบัติข้อสั่งการของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งพบว่าบริษัทฯ จงใจฝ่าฝืนข้อสั่งการอย่างชัดเจน

กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วม “ทีมเต็มเหนี่ยว” นำโดย นางสาวพลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วม “ทีมเต็มเหนี่ยว” นำโดย นางสาวพลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

สืบเนื่องจากเมื่อเดือนกันยายน 2568 สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปทุมธานี (สอจ.ปทุมธานี) ลงพื้นที่ตรวจพบการลักลอบประกอบกิจการไม่ตรงตามที่ได้รับอนุญาต อีกทั้งโรงงานมีสภาพอาจก่อให้เกิดอันตราย ความเสียหาย และความเดือดร้อนต่อผู้ปฏิบัติงานและประชาชนบริเวณใกล้เคียง จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 37 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สั่งให้ระงับการประกอบกิจการทำยางแผ่นจากยางรถยนต์เก่าใช้แล้ว และปรับปรุงแก้ไขโรงงานให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 17 ตุลาคม 2568 โดยให้ติดตั้งเครื่องจักรตามที่ได้รับอนุญาต อีกทั้งนำเศษยางรถยนต์เก่าใช้แล้วที่กองเก็บไปจัดการนอกพื้นที่บริเวณโรงงาน ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2566 พร้อมยื่นขออนุญาตผ่านระบบขออนุญาตนำสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงาน (กอ.1) ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม และรายงานข้อมูลการประกอบกิจการโรงงานผ่านระบบรายงานข้อมูลกลาง (i-Single Form) ของกระทรวงอุตสาหกรรม นอกจากนี้ บริษัทฯ ต้องจัดทำระบบหรือมาตรการป้องกันการเกิดอัคคีภัยภายในโรงงาน และมาตรการควบคุมและป้องกันกลิ่นเหม็นจากการประกอบกิจการโรงงาน ให้เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงาน

เมื่อเดือนกันยายน 2568 สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปทุมธานี สั่งให้ระงับการประกอบกิจการทำยางแผ่นจากยางรถยนต์เก่าใช้แล้ว และปรับปรุงแก้ไขโรงงานให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 17 ตุลาคม 2568
เมื่อเดือนกันยายน 2568 สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปทุมธานี สั่งให้ระงับการประกอบกิจการทำยางแผ่นจากยางรถยนต์เก่าใช้แล้ว และปรับปรุงแก้ไขโรงงานให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 17 ตุลาคม 2568

จากการตรวจติดตามในครั้งนี้ พบผลิตภัณฑ์และกากอุตสาหกรรมจากการผลิตเพิ่มเติมจากเดิม มีการนำกากอุตสาหกรรมจำพวกเศษยางรถยนต์เก่าใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีการติดตั้งเครื่องจักรตามที่ได้รับอนุญาต อีกทั้งบริษัทฯ ไม่สามารถแสดงหลักฐานการจัดทำระบบหรือมาตรการป้องกันการเกิดอัคคีภัยภายในโรงงาน และมาตรการควบคุมและป้องกันกลิ่นเหม็นจากการประกอบกิจการโรงงาน ถือเป็นการจงใจฝ่าฝืนคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ดังนั้น สอจ.ปทุมธานี ในฐานะผู้อนุญาต จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 39 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สั่งการให้โรงงานหยุดการประกอบกิจการโรงงานทั้งหมดเป็นการชั่วคราวในทันที พร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจภูธรคูบางหลวง เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีอาญาตามความผิด 3 ข้อหา ได้แก่

พบผลิตภัณฑ์และกากอุตสาหกรรมจากการผลิตเพิ่มเติมจากเดิม มีการนำกากอุตสาหกรรมจำพวกเศษยางรถยนต์เก่าใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
พบผลิตภัณฑ์และกากอุตสาหกรรมจากการผลิตเพิ่มเติมจากเดิม มีการนำกากอุตสาหกรรมจำพวกเศษยางรถยนต์เก่าใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต

1) ฝ่าฝืนคำสั่งมาตรา 37 วรรคหนึ่ง ของพนักงานเจ้าหน้าที่ มีโทษตามมาตรา 57 จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละ 5,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง

2) ประกอบกิจการโรงงานโดยไม่มีใบอนุญาต ตามมาตรา 12 วรรคหนึ่ง มีโทษตามมาตรา 50 วรรคหนึ่ง จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3) นำสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามข้อ 9 ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2566 มีโทษตามมาตรา 45 ปรับไม่เกิน 200,000 บาท

นายประสม ดำรงพงษ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบมาตรฐานงานกำกับโรงงาน
นายประสม ดำรงพงษ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบมาตรฐานงานกำกับโรงงาน
ไม่มีการติดตั้งเครื่องจักรตามที่ได้รับอนุญาต
ไม่มีการติดตั้งเครื่องจักรตามที่ได้รับอนุญาต
นำสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
นำสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต

#กรมโรงงานอุตสาหกรรม #กรมโรงงาน #กรอ #DIW #MIND #กระทรวงอุตสาหกรรม #ทีมเต็มเหนี่ยว