วันที่ 1 ธันวาคม 2568 อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม มอบหมายให้ นายธีรทัศน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายทินวัฒน์ แก้วสวี ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน เข้าร่วมประชุมสัมมนาการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน ร่วมด้วย นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางดวงดาว ขาวเจริญ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรม และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การจัดสรรงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 กรอบวงเงิน 3,788,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 7,400 ล้านบาท หรือ 0.2 % โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายและแก้ไขปัญหาเร่งด่วน แม้ว่าการจัดทำงบประมาณจะยังคงอยู่ในรูปแบบขาดดุล แต่รัฐบาลมีเจตนาแน่วแน่ที่จะลดการขาดดุลอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการคลังในระยะยาว และควบคุมหนี้สาธารณะให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสม โดยยึดหลักวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด
โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวในการประชุมว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับภัย 4 ด้าน ได้แก่ ภัยเศรษฐกิจ ภัยความมั่นคง ภัยสังคม และภัยธรรมชาติ สถานการณ์เหล่านี้ส่งผลกระทบรุนแรงและต้องใช้งบประมาณมหาศาลในการปรับตัวและเยียวยา รัฐบาลจึงกำหนดนโยบายสำคัญ 5 ด้าน สำหรับงบประมาณปี 2570 ได้แก่
- ด้านเศรษฐกิจ เน้นการฟื้นตัวอย่างเป็นระบบ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยเร่งรัดมาตรการ Quick Big Win เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดผลลัพธ์ที่รวดเร็วและกระจายตัว พร้อมทั้งส่งเสริมการลงทุนเพื่ออนาคต
- ด้านการต่างประเทศและความมั่นคง มุ่งมั่นในการรักษาอธิปไตยของชาติ และการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี ขณะเดียวกันก็ดำเนินนโยบายเชิงรุกเพื่อยกระดับบทบาทของไทยในเวทีโลก โดยมีเป้าหมายผลักดันให้ประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือ OECD (The Organization for Economic Cooperation and Development) ภายในปี พ.ศ. 2573
- ด้านสังคม จัดการอย่างเด็ดขาดกับปัญหาสังคมที่เป็นภัยคุกคาม เช่น สแกมเมอร์ ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ และการทุจริตคอร์รัปชัน โดยยึดหลักนิติธรรมและความโปร่งใส
- ด้านภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พัฒนาระบบเตือนภัยพิบัติให้ครอบคลุมและเป็นระบบ พร้อมเร่งเยียวยาและฟื้นฟูผู้ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็ว ควบคู่ไปกับการผลักดันประเทศสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593
- ด้านการบริหารงานภาครัฐ ปฏิรูประบบราชการไปสู่รัฐบาลดิจิทัล เพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส ยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตและการประกอบธุรกิจของประชาชน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้ทุกหน่วยงานจัดทำคำของบประมาณที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุด ความโปร่งใส และความคุ้มค่า โดยจำกัดการเพิ่มขึ้นของรายจ่ายประจำที่ไม่จำเป็น และในการของบประมาณของหน่วยงานไม่ควรเพิ่มเกินร้อยละ 20 จากปีก่อน ควรเป็นรายจ่ายงบลงทุนเป็นหลัก โดยมุ่งเน้นการใช้เม็ดเงินเพื่อการลงทุนที่จะสร้างผลลัพธ์ในระยะยาว เพื่อให้ประเทศสามารถก้าวพ้นวิกฤตการณ์ทางการเงินการคลังในอนาคตได้ และพร้อมที่จะพัฒนาประเทศไปสู่ความยั่งยืนต่อไป
#กรมโรงงานอุตสาหกรรม #กรมโรงงาน #กรอ #DIW #MIND #กระทรวงอุตสาหกรรม