You are currently viewing กรมโรงงานฯ ผนึกทีมเต็มเหนี่ยว บุก 2 โรงงานรีไซเคิลระยอง พบกองกากของเสีย “แสนตัน!” สั่งฟันดำเนินคดีเด็ดขาดตามกฎหมาย

วันที่ 31 ตุลาคม 2568 อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้รับเรื่องร้องเรียนของประชาชนที่เดือดร้อนปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมและกากอุตสาหกรรมจากการประกอบกิจการโรงงาน จึงมอบหมายให้ นางสาวนวพร สงวนหมู่ ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม นายประสม ดำรงพงษ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบมาตรฐานงานกำกับโรงงาน และเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและเตือนภัยมลพิษโรงงานภาคตะวันออก ร่วมชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจของกระทรวงอุตสาหกรรม หรือ “ทีมเต็มเหนี่ยว” นำโดย นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนางสาวพลอยลภัสร์ สิงโตทอง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมด้วยนายวีระ นันทเศรษฐ์ อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานรีไซเคิล 2 แห่ง ในตำบลพนานิคม อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง

กรมโรงงานฯ ผนึกทีมเต็มเหนี่ยว บุก 2 โรงงานรีไซเคิลระยอง พบกองกากของเสีย “แสนตัน!” สั่งฟันดำเนินคดีเด็ดขาดตามกฎหมาย
กรมโรงงานฯ ผนึกทีมเต็มเหนี่ยว บุก 2 โรงงานรีไซเคิลระยอง พบกองกากของเสีย “แสนตัน!” สั่งฟันดำเนินคดีเด็ดขาดตามกฎหมาย

ทีมเต็มเหนี่ยวปฏิบัติการลงพื้นที่โรงงานแห่งแรก “บริษัท ทีอาร์ ระยอง (ไทยแลนด์) จำกัด” ประกอบกิจการคัดแยกวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นของเสียอันตราย สกัดโลหะจากกากตะกอนทองแดง ทำอิฐบล็อกและอิฐตัวหนอน ขณะตรวจสอบไม่พบเครื่องจักรและคนงาน เนื่องจากโรงงานไม่มีการประกอบกิจการตั้งแต่เดือนกันยายน 2568 โดยไม่พบการระบายน้ำเสียออกนอกโรงงาน แต่พบกากอุตสาหกรรมที่เป็นวัตถุดิบชนิดผงกากตะกอน กองเก็บอยู่นอกอาคารภายในโรงงาน ประมาณ 48,000 ตัน ซึ่งไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต รวมถึงพบการกองเก็บและฝังกลบกากอุตสาหกรรมในที่ดินแปลงข้างเคียง พื้นที่ 46 ไร่ ประมาณ 100,000 ตัน โดยไม่ได้รับอนุญาต เข้าข่ายความผิดข้อหานำสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและเตือนภัยมลพิษโรงงานภาคตะวันออกได้เก็บตัวอย่างน้ำและสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วเพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์ หากผลการตรวจเข้าข่ายเป็นวัตถุอันตราย จะต้องดำเนินคดีในข้อหาครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต

 “บริษัท ทีอาร์ ระยอง (ไทยแลนด์) จำกัด” พบกากอุตสาหกรรมที่เป็นวัตถุดิบชนิดผงกากตะกอน กองเก็บอยู่นอกอาคารภายในโรงงาน ประมาณ 48,000 ตัน ซึ่งไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต รวมถึงพบการกองเก็บและฝังกลบกากอุตสาหกรรมในที่ดินแปลงข้างเคียง พื้นที่ 46 ไร่ ประมาณ 100,000 ตัน โดยไม่ได้รับอนุญาต เข้าข่ายความผิดข้อหานำสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
“บริษัท ทีอาร์ ระยอง (ไทยแลนด์) จำกัด” พบกากอุตสาหกรรมที่เป็นวัตถุดิบชนิดผงกากตะกอน กองเก็บอยู่นอกอาคารภายในโรงงาน ประมาณ 48,000 ตัน ซึ่งไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต รวมถึงพบการกองเก็บและฝังกลบกากอุตสาหกรรมในที่ดินแปลงข้างเคียง พื้นที่ 46 ไร่ ประมาณ 100,000 ตัน โดยไม่ได้รับอนุญาต เข้าข่ายความผิดข้อหานำสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต

เวลาต่อมา ทีมเต็มเหนี่ยวลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ “บริษัท จิน ไท้หลง รับเบอร์ จำกัด” โรงงานประเภท 105, 53(5), 53(9) ประกอบกิจการคัดแยกสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นอันตราย บดย่อยและทำเม็ดพลาสติกเกรดบี ขณะตรวจสอบมีการประกอบกิจการตามปกติ โดยพบการกองเก็บยางรถยนต์ใช้แล้วไว้ภายนอกอาคารโรงงาน เป็นการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน อีกทั้งยังตรวจพบการประกอบกิจการบดย่อยยางรถยนต์ใช้แล้ว เข้าข่ายเป็นโรงงานประเภท 106 ประกอบกิจการเกี่ยวกับการนำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่ใช้แล้วหรือของเสียจากโรงงานมาผลิตเป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ใหม่โดยผ่านกรรมวิธีการผลิตทางอุตสาหกรรม มีความผิดในข้อหาตั้งและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกด้วย

“บริษัท จิน ไท้หลง รับเบอร์ จำกัด” พบการกองเก็บยางรถยนต์ใช้แล้วไว้ภายนอกอาคารโรงงาน เป็นการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน อีกทั้งยังตรวจพบการประกอบกิจการบดย่อยยางรถยนต์ใช้แล้ว มีความผิดในข้อหาตั้งและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
“บริษัท จิน ไท้หลง รับเบอร์ จำกัด” พบการกองเก็บยางรถยนต์ใช้แล้วไว้ภายนอกอาคารโรงงาน เป็นการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน อีกทั้งยังตรวจพบการประกอบกิจการบดย่อยยางรถยนต์ใช้แล้ว มีความผิดในข้อหาตั้งและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต

นายฐาปกรณ์ กล่าวว่า เน้นย้ำให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามข้อหาความผิดที่ตรวจพบอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว พร้อมกำชับให้โรงงานทั้ง 2 แห่ง เร่งแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต ไม่ให้การประกอบการกิจการโรงงานส่งผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากพบว่าโรงงานยังคงเพิกเฉย ไม่ยินยอมปฏิบัติแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนด จะบังคับใช้กฎหมายฟ้องร้องดำเนินคดีอย่างเต็มเหนี่ยวแน่นอน

นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กำชับให้โรงงานทั้ง 2 แห่ง เร่งแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต ไม่ให้การประกอบการกิจการโรงงานส่งผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม
นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กำชับให้โรงงานทั้ง 2 แห่ง เร่งแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต ไม่ให้การประกอบการกิจการโรงงานส่งผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม
(ซ้าย-ขวา) นางสาวพลอยลภัสร์ สิงโตทอง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนางสาวนวพร สงวนหมู่ ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม
(ซ้าย-ขวา) นางสาวพลอยลภัสร์ สิงโตทอง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนางสาวนวพร สงวนหมู่ ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม

#กรมโรงงานอุตสาหกรรม #กรมโรงงาน #กรอ #DIW #MIND #กระทรวงอุตสาหกรรม #โรงงานรีไซเคิล #กากอุตสาหกรรม