You are currently viewing กรมโรงงานฯ เร่งแกะรอยลักลอบทิ้งกากพิษในบ่อดินกลางสวนยูคาลิปตัส! จ่าเอก ยศสิงห์ สั่งเร่งขยายผลสอบผู้เกี่ยวข้อง ดำเนินคดีไม่มีละเว้น

วันที่ 24 ตุลาคม 2568 นายปณตสรรค์ สูจยานนท์ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นางสาวนวพร สงวนหมู่ ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและเตือนภัยมลพิษโรงงานภาคตะวันออก ร่วมคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายพีรวัส สมวงศ์ เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบความคืบหน้ากรณีลักลอบทิ้งกากของเสียในบ่อดิน บริเวณสวนยูคาลิปตัส ตำบลหนองไม้แก่น อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา

พื้นที่ลักลอบทิ้งกากของเสียในบ่อดิน บริเวณสวนยูคาลิปตัส ตำบลหนองไม้แก่น อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา
พื้นที่ลักลอบทิ้งกากของเสียในบ่อดิน บริเวณสวนยูคาลิปตัส ตำบลหนองไม้แก่น อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา

จากกรณีเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรแปลงยาวจับกุมรถบรรทุกน้ำมันหล่อลื่นใช้แล้ว ซึ่งเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 กำลังลักลอบนำของเสียมาลักลอบทิ้งบ่อดินภายในสวนยูคาลิปตัสดังกล่าว เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2567 ต่อมาสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา (สอจ.ฉะเชิงเทรา) ได้นำส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย กระทั่งพบผู้กระทำผิด 3 ราย ให้การรับสารภาพ และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งฟ้อง พร้อมสืบสวนหาผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันคดียังอยู่ระหว่างการสอบสวนและติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง

พบผู้กระทำผิด 3 ราย ให้การรับสารภาพ และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งฟ้อง พร้อมสืบสวนหาผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันคดียังอยู่ระหว่างการสอบสวนและติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
พบผู้กระทำผิด 3 ราย ให้การรับสารภาพ และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งฟ้อง พร้อมสืบสวนหาผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันคดียังอยู่ระหว่างการสอบสวนและติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การลักลอบทิ้งกากของเสียหรือของเสียอันตรายในพื้นที่ใดก็ตาม เป็นการสร้างผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมโดยตรง ถือเป็นการกระทำที่ยอมรับไม่ได้ โดยกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องไม่เพิกเฉย และดำเนินการอย่างรัดกุมตามข้อบังคับทางกฎหมาย ขณะเดียวกัน ได้เตรียมประสานหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมและท้องถิ่นในการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อความปลอดภัยของชุมชนโดยรอบ และป้องกันปัญหามลพิษในระยะยาว พร้อมย้ำว่า “หากพบโรงงานหรือบุคคลใดเกี่ยวข้อง จะต้องถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ทั้งในทางอาญาและทางปกครอง ไม่มีข้อยกเว้น”

ทั้งนี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรมและ สอจ.ฉะเชิงเทรา จะเร่งรัดตรวจสอบแหล่งกำเนิดของเสีย รวมถึงเส้นทางการขนส่ง เพื่อสาวไปถึงต้นตอของผู้ว่าจ้างหรือผู้สั่งการ โดยจะดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีกในพื้นที่อื่น ภายใต้นโยบาย “ปิดเร็ว–เปิดเร็ว–พึ่งพาได้” ที่เน้นให้ทุกการดำเนินงานของภาครัฐมีความรวดเร็ว โปร่งใส และคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ

กรมโรงงานอุตสาหกรรมและ สอจ.ฉะเชิงเทรา จะเร่งรัดตรวจสอบแหล่งกำเนิดของเสีย รวมถึงเส้นทางการขนส่ง เพื่อสาวไปถึงต้นตอของผู้ว่าจ้างหรือผู้สั่งการ
กรมโรงงานอุตสาหกรรมและ สอจ.ฉะเชิงเทรา จะเร่งรัดตรวจสอบแหล่งกำเนิดของเสีย รวมถึงเส้นทางการขนส่ง เพื่อสาวไปถึงต้นตอของผู้ว่าจ้างหรือผู้สั่งการ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เน้นย้ำนโยบาย “ปิดเร็ว–เปิดเร็ว–พึ่งพาได้” ที่เน้นให้ทุกการดำเนินงานของภาครัฐมีความรวดเร็ว โปร่งใส และคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เน้นย้ำนโยบาย “ปิดเร็ว–เปิดเร็ว–พึ่งพาได้” ที่เน้นให้ทุกการดำเนินงานของภาครัฐมีความรวดเร็ว โปร่งใส และคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ

#กรมโรงงานอุตสาหกรรม #กรมโรงงาน #กรอ #DIW #MIND #กระทรวงอุตสาหกรรม #จ่าเอกยศสิงห์ #กากอุตสาหกรรม