นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ทำงานเชิงรุกไม่เว้นวันหยุดราชการ สั่งการด่วนให้เจ้าหน้าที่กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลในจังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2568 ภายหลังได้รับเบาะแสซัดทอดโรงงานเชื่อมโยงคดี บริษัท ภัชชาภิวัฒน์ จำกัด แจกจ่ายดินปนเปื้อนเศษพลาสติกอันตรายให้ประชาชนนำไปถมที่และตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2568

การลงพื้นที่ขยายผลตรวจสอบในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมชุดปฏิบัติการตรวจสุดซอยของกระทรวงอุตสาหกรรม หรือทีมสุดซอย นำโดย นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุรศักดิ์ จันทร์ชุม อุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย พันตำรวจเอก วิญญู แจ่มใส ผกก. 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจตรี วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการ บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงาน “บริษัท กำปั่นทอง อินดัสทรี จำกัด” ในตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่าพื้นที่โรงงานเป็นอาคารโกดัง จำนวน 5 หลัง มีนายทุนชาวจีนเป็นกรรมการบริษัทและเป็นเจ้าของที่ดิน ให้บริษัทชาวจีนแบ่งเช่าอาคารโกดังดังกล่าว เพื่อแยกประกอบกิจการ โดยมีใบอนุญาตโรงงาน 5 ใบอนุญาต แต่กลับแจ้งประกอบกิจการเพียง 1 ใบอนุญาต นอกจากนี้ ยังตรวจพบการครอบครองขยะอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเข้าข่ายเป็นวัตถุอันตราย รวมทั้งลักลอบฝังกลบเศษพลาสติกและเศษสายไฟบดย่อยในที่ดินโรงงานและบริเวณใกล้ท่อส่งแก๊สธรรมชาติที่อยู่บนบกของ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) รวมพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ ลักษณะคล้ายที่ตรวจพบในพื้นที่ บริษัท ภัชชาภิวัฒน์ จำกัด

นางสาวฐิติภัสร์ เปิดเผยว่า เมื่อตรวจสอบข้อมูลเอกสาร กำปั่นทองฯ มีรายได้จากค่าเช่าอาคารโกดังเหล่านี้ และการให้บริการสาธารณูปโภคส่วนกลาง เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา อินเทอร์เน็ต และระบบรักษาความปลอดภัย ในลักษณะเป็นนิคมหรือเขตปลอดอากร (Free zone) อย่างผิดกฎหมาย โดย กำปั่นทองฯ จะบริการจัดหาวัตถุดิบผลิตภัณฑ์ที่เป็นของต้องห้ามนำเข้าในประเทศ จำพวกขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษพลาสติก เศษสายไฟ และชิ้นส่วนรถยนต์ นำมาประกอบธุรกิจศูนย์เหรียญ คัด แยก รีไซเคิล เอาทองแดงไปหลอมส่งจำหน่ายให้โรงงานอื่น ส่วนเศษกากอุตสาหกรรมอันตรายก็ลักลอบฝังกลบโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบร้ายแรงต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม

เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา จึงออกคำสั่งตามมาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้ บริษัท กำปั่นทอง อินดัสทรี จำกัด หยุดประกอบกิจการทั้งหมด และยึดอายัดเครื่องจักร วัสดุ สิ่งของ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ กองดินปนเปื้อน และสิ่งอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาตั้งและประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต ตลอดจนเสนอให้พิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตโรงงานที่ยังไม่แจ้งประกอบกิจการ ส่วนกรณีฝังกลบเศษพลาสติกและเศษสายไฟบดย่อยบริเวณใกล้ท่อส่งแก๊สธรรมชาติ ได้ประสานให้สำนักงานพลังงานจังหวัดฉะเชิงเทราเข้ามาตรวจสอบตามกระบวนการ ขณะเดียวกัน ตำรวจ บก.ปทส. ได้ข้อมูลชัดเจนว่าโรงงานดังกล่าวแสดงพฤติการณ์ในการขนย้ายวัตถุดิบผลิตภัณฑ์เข้าออกโรงงาน จึงจะรวบรวมพยานหลักฐานนำส่งให้พนักงานสอบสวนขยายผลติดตามตรวจสอบและพิสูจน์ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีความผิดต่อไป



#กรมโรงงานอุตสาหกรรม #กรมโรงงาน #กรอ #DIW #MIND #กระทรวงอุตสาหกรรม #saveอุตสาหกรรมไทย #saveสิ่งแวดล้อม #กากอุตสาหกรรม #ทีมสุดซอย #ตรวจสุดซอย #โรงงานรีไซเคิล #ฉะเชิงเทรา
