นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรมเดินหน้าติดตามกรณีการลักลอบนำเข้าเศษยางจากประเทศกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลยาง 2 แห่ง ได้แก่ 1) บริษัท ฟง หงษ์ หยวน เฮง รับเบอร์ จำกัด จังหวัดระยอง และ 2) บริษัท โอรานไลต์ จำกัด จังหวัดชลบุรี พร้อมดำเนินคดีความผิดตามกฎหมายอาญา ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมและกองบริการงานอนุญาตโรงงาน 1 ร่วมชุดปฏิบัติการตรวจสุดซอยของกระทรวงอุตสาหกรรม หรือทีมสุดซอย นำโดย นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวศิริลักษณ์ วิศวรุ่งโรจน์ อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานอีก 2 แห่งในจังหวัดชลบุรี เพื่อขยายผลหาข้อเท็จจริง สาวต้นตอและเครือข่ายขบวนการลักลอบนำเข้าเศษยางผิดกฎหมาย

จากการลงพื้นที่โรงงานแห่งแรก “บริษัท หัวหง รับเบอร์ รีนิวเอเบิล รีซอร์สเซส โพรเซสซิ่ง จำกัด” ในตำบลหนองชาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ประเภทโรงงานลำดับที่ 51 ประกอบกิจการผลิต ซ่อม หล่อดอกยางนอกหรือยางในสำหรับยานพาหนะ ผลการตรวจสอบพบว่ามีการประกอบกิจการโรงงานตรงตามเงื่อนไขการอนุญาต โดยเจ้าหน้าที่กำชับให้ หัวหงฯ ชี้แจงแหล่งที่มาของวัตถุดิบผลิตภัณฑ์ทั้งหมด พร้อมเอกสารหลักฐานให้ชัดเจนต่อสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี (สอจ.ชลบุรี) ภายในวันที่ 10 มิถุนายน 2568 อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามข้อมูลพบว่า หัวหงฯ นำส่งวัตถุดิบผลิตภัณฑ์บางส่วนไปยังโรงงานของ บริษัท เฮง เฮง เฮง พลาสติก จำกัด จังหวัดชลบุรี จึงเป็นเบาะแสสำคัญนำไปสู่การขยายผลตรวจสอบเพิ่มเติม

เวลาต่อมา เจ้าหน้าที่เร่งลงพื้นที่โรงงาน “บริษัท เฮง เฮง เฮง พลาสติก จำกัด” ในตำบลมาบไผ่ อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ประเภทโรงงานลำดับที่ 53 วัตถุประสงค์ตอนจดทะเบียนประกอบกิจการหั่น ผสม รีดให้เป็นแผ่น หรือตัดแผ่นยางยางธรรมชาติ แต่ขณะเข้าตรวจสอบพบว่ามีการประกอบกิจการโรงงานไม่ตรงตามเงื่อนไขการอนุญาต อาทิ
(1) โรงงานกำลังบด ย่อย แยกโลหะจากยางรถยนต์ใช้แล้วและชิ้นส่วนยางรถยนต์ เข้าข่ายโรงงานลำดับที่ 106 เป็นการลักลอบตั้งและประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(2) พบวัตถุดิบต้องสงสัยที่คาดว่าอาจเป็นเศษยางลักลอบนำเข้าจากประเทศกัมพูชา กองเก็บอยู่ภายนอกอาคารโรงงาน ซึ่งเป็นพื้นที่โรงงานพลาสติก

พร้อมทั้งตรวจสอบพบข้อมูลการรับซื้อเศษยางจาก บริษัท โอรานไลต์ จำกัด เดือนละ 1-2 ครั้ง จำนวนครั้งละประมาณ 20-30 ตัน โดยรับซื้อครั้งล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน 2568 เพื่อนำมาทำฝุ่นยาง/ยางแผ่น และจำหน่ายสินค้ากลับให้โอรานไลต์ฯ เจ้าหน้าที่จึงให้ เฮง เฮง เฮงฯ ชี้แจงแหล่งที่มาของวัตถุดิบผลิตภัณฑ์ทั้งหมด รวมทั้งเอกสารหลักฐานให้ชัดเจนต่อ สอจ.ชลบุรี ภายในวันที่ 10 มิถุนายน 2568 พร้อมยึดอายัดเครื่องจักร วัสดุ สิ่งของ และสิ่งอื่นที่เกี่ยวข้อง รวบรวมเป็นพยานหลักฐานในการตรวจสอบและพิสูจน์ข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินคดีความผิดต่อไป

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ไปยังโรงงาน “บริษัท เค็น ยูไนเต็ด (ประเทศไทย) จำกัด” ในเขตปลอดอากร (Free zone) ตำบลธาตุทอง อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี ประเภทโรงงานลำดับที่ 53 ประกอบกิจการทำเม็ดพลาสติกจากพลาสติกที่ใช้แล้ว ทำผลิตภัณฑ์จากพลาสติก และบดหรือย่อยพลาสติก ซึ่งเป็นการตรวจติดตามข้อสั่งการของ สอจ.ชลบุรี ให้โรงงานหยุดประกอบกิจการเป็นการชั่วคราวเพื่อปรับปรุงแก้ไข จากการตรวจสอบพบว่าโรงงานยังคงติดตั้งเครื่องจักรไม่ตรงตามเงื่อนไขการอนุญาต อีกทั้งพบการกองเก็บวัตถุดิบภายนอกอาคารโรงงาน และไม่พบข้อมูลการขออนุญาตนำสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงาน (กอ.1) สอจ.ชลบุรี จึงสั่งการให้ เค็น ยูไนเต็ดฯ เร่งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน


#กรมโรงงานอุตสาหกรรม #กรมโรงงาน #กรอ #DIW #MIND #กระทรวงอุตสาหกรรม #saveอุตสาหกรรมไทย #saveสิ่งแวดล้อม #กากอุตสาหกรรม #ทีมสุดซอย #ตรวจสุดซอย #โรงงานรีไซเคิล #ยางรถยนต์ #ลักลอบนำเข้า #กัมพูชา #ชลบุรี
