วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กองบริการงานอนุญาตโรงงาน 1 และกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม เข้าร่วมปฏิบัติการ “ทีมตรวจสุดซอย” ภายใต้การนำของนางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานแห่งหนึ่งในตำบลหนองเหียง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ซึ่งประกอบกิจการภายใต้ใบอนุญาต 2 ฉบับ บนพื้นที่เดียวกัน โดยผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตและเหล็กรูปพรรณ

จากการตรวจสอบโรงงานตามใบอนุญาตฉบับที่ 1 พบการติดตั้งเตาหลอมเหล็กแบบ Induction Furnace (IF) จำนวน 3 เตา ซึ่งเป็นเครื่องจักรที่ได้รับอนุญาตให้ขยายโรงงานแล้ว แต่ยังไม่ได้แจ้งเริ่มดำเนินการผลิตในส่วนขยายดังกล่าว และมีร่องรอยการใช้งานแล้ว ถือเป็นการกระทำผิดตามมาตรา 13 วรรคหนึ่ง และมาตรา 18 วรรคท้าย แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 นอกจากนี้ยังตรวจพบการติดตั้งระบบบำบัดอากาศที่ไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต พื้นที่โรงงานมีการปนเปื้อนฝุ่น น้ำมัน และเศษวัสดุ ส่งผลต่อความปลอดภัยในการทำงาน อุปกรณ์ดับเพลิงและระบบป้องกันอัคคีภัยบางรายการไม่พร้อมใช้งาน อีกทั้งมีการกองเก็บวัตถุดิบและวัสดุที่ใช้แล้ว เช่น ตะกรันจากการหลอมเหล็ก ไว้นอกอาคารโดยไม่มีมาตรการป้องกันการปนเปื้อน และไม่มีการขออนุญาตจำหน่ายวัสดุที่ใช้แล้วออกนอกโรงงาน (แบบ กอ.1)

ต่อมา ได้ตรวจสอบโรงงานตามใบอนุญาตฉบับที่ 2 พบว่าโรงงานถูกสั่งหยุดดำเนินกิจการบางส่วนตามมาตรา 39 วรรคหนึ่ง โดยให้ยุติการใช้น้ำในกระบวนการผลิต และให้จัดการน้ำทิ้งและดินปนเปื้อนคราบน้ำมันทั้งภายในโรงงานและพื้นที่ชุมชนโดยรอบให้ถูกต้องตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2566 ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าไม่มีการติดตั้งเตาหลอมเหล็กแบบ Electric Arc Furnace (EAF) ตามที่ได้รับอนุญาต แต่กลับติดตั้งเตา Induction Furnace (IF) จำนวน 6 เตา ซึ่งไม่อยู่ในรายการเครื่องจักรที่ได้รับอนุญาต เข้าข่ายการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามมาตรา 18(1) ของพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 จากการตรวจสอบสภาพแวดล้อมของโรงงานยังไม่เหมาะสมต่อการปฏิบัติงาน พบฝุ่นและเศษวัสดุปนเปื้อนทั่วบริเวณ อาคารโรงงานชำรุด และอุปกรณ์แจ้งเตือนอัคคีภัยไม่พร้อมใช้งาน นอกจากนี้ ยังพบการกองเก็บวัตถุดิบ วัสดุเหลือใช้ และตะกรันจากการหลอมเหล็กไว้กลางแจ้งโดยไม่มีมาตรการป้องกันการปนเปื้อน ทั้งยังไม่พบการนำน้ำมันและดินปนเปื้อนไปกำจัดตามข้อกำหนดในคำสั่งมาตรา 37 วรรคหนึ่ง

กรมโรงงานฯ จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยเคร่งครัด เพื่อควบคุมและกำกับดูแลให้สถานประกอบการดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายและข้อกำหนดด้านความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และสุขอนามัยของแรงงาน ทั้งนี้ เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม

