นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม สั่งการทันทีให้เจ้าหน้าที่กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม และศูนย์วิจัยและเตือนภัยมลพิษโรงงานภาคตะวันออก ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงหลอมหล่อเศษและตะกรันโลหะของ บริษัท เซ็ทเมทอล จำกัด ซึ่งเช่าพื้นที่ของ บริษัท พีทีเอส โกลเด้น เมทัล จำกัด ในตำบลกรอกสมบูรณ์ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 ภายหลังได้รับแจ้งร้องเรียนกรณีโรงงานลักลอบประกอบกิจการ ทั้งที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี (สอจ.ปราจีนบุรี) ออกคำสั่งตามมาตรา 37 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 ให้หยุดประกอบกิจการชั่วคราวเพื่อปรับปรุงแก้ไขจนกว่าจะดำเนินการถูกต้องตามเงื่อนไขอนุญาต

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมชุดปฏิบัติการตรวจสุดซอยของกระทรวงอุตสาหกรรม หรือทีมสุดซอย นำโดย นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมด้วย นายวิเชียร ทองด้วง อุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี นางสาวดาวัลย์ จันทรหัสดี เจ้าหน้าที่อาวุโส มูลนิธิบูรณะนิเวศ และตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) กระจายกำลังแบ่งเป็น 2 ชุด เข้าตรวจสอบพื้นที่พร้อมกัน 2 จุด คือ 1) บริษัท เซ็ทเมทอล จำกัด และ 2) บริษัท พีทีเอส โกลเด้น เมทัล จำกัด ซึ่งทั้ง 2 จุดตรวจสอบพบเป็นการประกอบกิจการโดย เซ็ทเมทอลฯ เช่าที่ดินสร้างอาคารโรงงานแบ่งให้ชาวจีนและชาวไต้หวันเช่าช่วงประกอบกิจการรีไซเคิลเต็มระบบในลักษณะนิคมศูนย์เหรียญ ทั้งส่วนที่มีใบอนุญาตและไม่มีใบอนุญาต โดยพบการกระทำผิดหลายข้อหา อาทิ คนงานกำลังเดินเครื่องรีไซเคิลสายไฟอย่างโจ้งแจ้ง ถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งตามมาตรา 37 วรรคหนึ่ง ที่ สอจ.ปราจีนบุรี ได้ออกคำสั่งไว้ นอกจากนี้ ยังตรวจพบการระบายน้ำปนเปื้อนสายไฟลงบ่อดิน มีการกองเก็บวัตถุดิบและวัสดุที่ไม่ใช้แล้วไว้กลางแจ้งโดยไม่มีมาตรการป้องกันการปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อม พบเครื่องจักรที่ไม่ได้รับอนุญาต มีวัตถุดิบที่ไม่ได้รับอนุญาต จำพวกเศษโลหะปนเปื้อน ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้า เศษสายไฟ และแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ รวมกว่า 8,000 ตัน เข้าข่ายเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตามบัญชี 5.2 ของเสียเคมีวัตถุ ลำดับที่ 2.18 แนบท้ายประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยและเตือนภัยมลพิษโรงงานภาคตะวันออกจึงเก็บตัวอย่างวัสดุที่ไม่ใช้แล้วและน้ำเพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์ ขณะที่ สอจ.ปราจีนบุรี ออกคำสั่งให้ เซ็ทเมทอลฯ ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนในส่วนขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาตทันที รวมทั้งยึดอายัดเครื่องจักร วัตถุดิบผลิตภัณฑ์ และกากของเสียของกลางทั้งหมดไว้ พร้อมแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ ตั้งและประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต และครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต อย่างไรก็ตาม เจ้าของที่ดินผู้ให้ เซ็ทเมทอลฯ เช่าพื้นที่สร้างอาคารโกดัง จะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วยเช่นกัน

นางสาวฐิติภัสร์ เปิดเผยว่า จากผลการตรวจสอบพบว่ามีการครอบครองวัตถุอันตรายมากกว่า 8,000 ตัน ซึ่งเกินกว่า 50 ตันที่กฎหมายกำหนด ทำให้เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษที่ต้องส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พิจารณา โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะรวบรวมข้อมูลและส่งมอบให้ DSI ดำเนินการต่อไป


#กรมโรงงานอุตสาหกรรม #กรมโรงงาน #กรอ #DIW #MIND #กระทรวงอุตสาหกรรม #saveอุตสาหกรรมไทย #saveสิ่งแวดล้อม #กากอุตสาหกรรม #สุดซอย #ตรวจสุดซอย #นิคมศูนย์เหรียญ
