กรมโรงงานฯ-ทีมตรวจสุดซอย ยกระดับเข้ม! ตรวจโรงงานเหล็กในจังหวัดปราจีนบุรี พบฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรงงานฯ มีโทษทั้งจำทั้งปรับ

จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ประกอบการได้ติดตั้งเครื่องหล่อเหล็กแท่งแบบต่อเนื่องจำนวน 2 เครื่อง โดยมิได้แจ้งเปลี่ยนแปลงรายการเครื่องจักรเป็นหนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 30 วันนับแต่วันที่มีการดำเนินการ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 19 วรรคหนึ่ง ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท นอกจากนี้ ยังตรวจพบการใช้พื้นที่นอกเขตโรงงานที่ได้รับใบอนุญาต เพื่อประกอบกิจการคัดแยกและอัดเศษเหล็ก รวมถึงการกองเก็บเศษเหล็กและตะกรันเหล็กโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีการติดตั้งเครื่องจักรในพื้นที่ดังกล่าวโดยไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 3 ลำดับที่ 105, 106 และ 64 ซึ่งเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 12 วรรคหนึ่งและวรรคสอง มีบทกำหนดโทษตามมาตรา 50 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงตรวจพบการครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 (ขยะอิเล็กทรอนิกส์) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามมาตรา 23 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีน จะได้ดำเนินคดีกับบริษัท และจะออกคำสั่งตาม มาตรา 37 พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 ให้หยุดการกรทำที่เป็นการฝ่าฝืน และปรับปรุงแก้ไขการประกอบกิจการโรงงานให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนดต่อไป

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างวัสดุที่ไม่ใช้แล้วจำนวน 3 ตัวอย่างจากบริเวณที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจวิเคราะห์องค์ประกอบสารอันตราย ได้แก่ ตัวอย่างจากระบบบำบัดมลพิษทางอากาศของเตาหลอมไฟฟ้าแบบเหนี่ยวนำ (IF) ตัวอย่างฝุ่นจากถุงบรรจุฝุ่น (IF) ภายในอาคารเก็บของ และตัวอย่างฝุ่นจากจุดรวบรวมบริเวณเตาหลอม โดยวัสดุทั้งหมดมีลักษณะเป็นผงสีเทาดำ ซึ่งการวิเคราะห์ดังกล่าวมีความสำคัญต่อการพิจารณาความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมอย่างเหมาะสมต่อไป